0

SWITZERLAND: นั่งเที่ยว รถไฟ สวิตเซอร์แลนด์ บนเส้นทางมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก

2016-08-19 11:15:33 ใน สาระน่ารู้รอบโลก » 0 821
 

SWITZERLAND: นั่งเที่ยว รถไฟ สวิตเซอร์แลนด์
บนเส้นทางมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก



                  หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเส้นทาง รถไฟ สวิตเซอร์แลนด์ ที่มีชื่อเสียงอย่าง Glacier Express รถไฟความเร็วสูงที่วิ่งช้าที่สุดในโลก ที่วิ่งจากเมือง St. Moritz สู่ เมือง Zermatt ผ่านเทือกเขา Swiss Alps และยอดเขา Matterhorn อันโด่งดัง  ซึ่งรถไฟขบวนนี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อดักนักท่องเที่ยว และ มีราคาค่อนข้างสูง หากใครเป็นนักเดินทางกระเป๋าตุง แน่นอนว่าเส้นทางนี้ถือว่าตอบโจทย์ แต่หากใครไม่ได้สนใจกับความหรูหราของการนั่งรถไฟไปจิบไวน์ไป แต่กำลังมองหาประสบการณ์ที่แตกต่าง ทางภาคตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ ยังมีเส้นทางรถไฟอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน 


               เส้นทางรถไฟจากเมือง Thusis สู่เมือง Tirano สายนี้ ไม่ใช่เส้นทางที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะมันไม่ได้มุ่งหน้าไปจุดหมายสุดฮิตอย่างยอดเขา Matterhorn แต่มันคือเส้นทางที่คนสวิสใช้เดินทางกัน และสามารถข้ามพรมแดนเข้าสู่ตอนเหนือของประเทศอิตาลีได้อีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่อยากจะหลบลี้จากกลุ่มลูกทัวร์และนักท่องเที่ยว ประหยัดงบค่าเดินทาง หรือแม้แต่ต้องการท่องเที่ยวข้ามประเทศ การศึกษาข้อมูลของทางรถไฟสายนี้เอาไว้ เชื่อว่าไม่เสียเปล่าแน่ๆ

               เส้นทางทางรถไฟความยาว 240 กิโลเมตร ที่วิ่งผ่านอุโมงค์ 84 แห่ง และข้ามสะพาน 383 แห่งสายนี้ เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรถไฟสวิสที่ชื่อ Rhäetian Railway และ เป็น 1ใน 3 เส้นทางรถไฟที่ถูกบันทึกไว้ให้เป็นเส้นทางมรดกโลกของ UNESCO เลยทีเดียว และปีนี้ก็ถือเป็นปีครบรอบ 125 ปีของการก่อตั้งทางรถไฟสายนี้ด้วย การโดยสารรถไฟในเส้นทางนี้ สามารถทำได้ด้วยการขึ้นรถไฟสายปรกติ หรือจะขึ้นรถไฟสาย Bernina Express ก็ได้ โดยสามารถเดินทางได้ทั้งปี ในฤดูร้อน ผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ของทุ่งหญ้าป่าเขาที่สวยสดงดงาม ส่วนในฤดูหนาว ก็จะสามารถชื่นชมความระยิบระยับของธารน้ำแข็งและภูเขาหิมะได้ตลอดเส้นทาง

              ก่อนจะเข้าสู่อิตาลี มีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเส้นทางรถไฟสายนี้ ซึ่งก็คือสะพานที่มีชื่อว่า Brusio Spiral Viaduct สะพานวนโค้งที่ตั้งอยู่ระหว่าง เมือง Brusio และ เมือง Campascio โค้งของสะพานแห่งนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อลดความลาดชัน เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้โดยไม่ตกราง ซึ่งแน่นอนว่า ความพิเศษของมัน ทำให้สะพานแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกของ UNESCO บนเส้นทางรถไฟสายนี้

              ความเปลี่ยนแปลงของทิวทัศน์ข้างทาง จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อรถไฟได้ข้ามพรมแดนสวิสเข้าสู่อิตาลี หุบเขาที่เขียวขจี ยอดเขาขาวโพลนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ จะเริ่มถูกทดแทนด้วยต้นปาล์ม ซากปรักหักพังของอาคารเก่า และร้านไอติมเจลาโต้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้ผู้โดยสารได้รับรู้ว่า รถไฟขบวนนี้ ได้พาผู้โดยสารเดินทางข้ามรอยต่อทางวัฒนธรรมมาแล้ว และสิ่งนี้เอง ที่ถือเป็นเสน่ห์ของการเดินทางข้ามประเทศโดยรถไฟ

 

ที่มา : culturedcreatures
 
ทัวร์ยุโรป Tour Europe
ทัวร์ยุโรป
ทัวร์เอเชีย
 
 
ทัวร์ออสเตรเลีย
ทัวร์นิวซีแลนด์
ทัวร์แอฟริกา
ติดต่อเรา
พยากรณ์อากาศ
อัตราแลกเปลี่ยน
การขอวีซ่า
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
สาระน่ารู้รอบโลก
ดาวน์โหลดใบจองทัวร์
TAT. License 11/06096